“โอกาส” ที่วิกฤติสอน เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ

ในโลกนี้ไม่มีอะไรอยู่คงที่ ไปชั่วกาลปวสาร “วิกฤติ” ก็ด้วยเช่นกัน

Blog Detail

“โอกาส” ที่วิกฤติสอน เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ


ในโลกนี้ไม่มีอะไรอยู่คงที่

ไปชั่วกาลปวสาร


“วิกฤติ” ก็ด้วยเช่นกัน


อย่างโรคร้าย ถึงจุดหนึ่ง

ก็จะมีวัคซีนออกมารักษาป้องกัน


อย่างเศรษฐกิจตกต่ำ

ก็จะมีวันฟื้นไข้กลับมาดีขึ้น


ซึ่งทุกอย่างนั้นล้วนทิ้ง 

“บางสิ่ง” ให้เราเอาไว้

เป็น “หลักคิด” ต่อไปได้เสมอ


“หลักคิด” ที่ทำให้ ‘มองเห็น’

เป็นโอกาสให้วางแผน ต่อยอด

จากที่ช่วงปกติเราอาจไม่เคยได้นึกถึงเลย


ที่อย่างน้อย ๆ ผมเชื่อว่า

คุณน่าจะได้เห็นโอกาสในการไปต่อ

ของธุรกิจตัวเองได้ดังนี้ครับ


1. โอกาส Lean


ในวันที่ต้องรัดเข็มขัด

ลงทุนแต่จะจุด

ต้องคิดให้รอบกว่าเดิม


แผนการตลาดแบบนี้

ได้ยอดขายคุ้มค่าจริงไหม ?


บริหารตัวแทนด้วย Model นี้

น่าลงทุนกว่าลงกับ

พรีเซนเตอร์หรือเปล่า ?


หรือใช้กลยุทธ์การขายแบบนี้

ช่วยลดต้นทุนได้มากกว่า

เพิ่มสัดส่วนกำไรได้ผลกว่า ?


เราจะเห็นชัดเจนขึ้นมากเลยว่า

อะไรที่ไม่มีศักยภาพเท่าที่ควร

และอะไรที่จำเป็นต่อธุรกิจจริง ๆ


ทำแบบไหนแล้วให้ผลน้อยกว่า

ก็จะได้ลดหรือเลิกไป


หรือทำแบบไหนแล้ว Lean กว่า

ประหยัดกว่า คุ้มค่ากว่า ก็จะได้คงไว้


ซึ่งสิ่งที่พาคุณผ่านไปได้ในวันนี้

มันจะไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้


แต่ยังไว้ใช้เป็นแนวในการตัดสินใจ

เดินหน้าธุรกิจต่อไปในอนาคตได้ด้วยครับ


2. เห็นโอกาสแตกไลน์


สินค้าดารานำตัวเดิม

อาจถอยฉากเป็นตัวประกอบ

ในบางสถานการณ์ไปเลย


เพราะผู้คนต่างพากัน

หันไปโฟกัสกับของบางอย่าง

แทนมากกว่า


จังหวะนี้คนที่ไหวตัวทัน

ไม่เคยประมาทเรื่องทุนสำรอง

ก็จะคว้าโอกาสที่เป็น

เหรียญอีกด้านของวิกฤติได้


เครื่องปรับอากาศบางแบรนด์

พัฒนาเทคโนโลยีที่กรอง PM 2.5 ได้


บาง Service ก็พุ่งเป้าแก้เกม

ความสะดวก สบายใจ ไม่ต้องออกบ้าน

ไปเผชิญกับเชื้อที่กำลังระบาด


แม้แต่เอาแฟชั่นมาใส่

ให้เข้ากับ Mask ก็มี


เรียกว่าแตกไลน์ของเดิมที่มีอยู่

พัฒนาให้สอดคล้องกับ

จุดประสงค์การใช้ใหม่


มันจึงน่าคิดนะครับ 

ว่าของเดิมของเรา

จะขยับไปเป็นอะไร

ในจุดประสงค์อื่นได้อีกบ้าง


มันจะกลายเป็นไอเดียตั้งต้น

ที่แตกเป็นไอเดียใหม่ ๆ 


เจาะกลุ่มพฤติกรรมอื่น ๆ 

เจาะกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ 

ขยายตัวกว้างไปกว่าเดิมด้วยครับ


3. เห็นโอกาสขยายธุรกิจใหม่


ในขณะที่บางคน

มองไม่เห็นแสงสว่าง


กลับมีบางคน

ขยายธุรกิจอีกตัวขึ้นมาได้


จริงอยู่ว่าเงินทุน

ก็เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งครับ


แต่ในกรณีนี้มันช่วยหนุน

อะไรไม่ได้เลย ถ้าขาดสายตา

อันเฉียบคม และการวางแผน


ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้

ทำให้เราได้เห็นคนปรับตัว


เปลี่ยนจากอีกอย่างมาทำอีกอย่าง

ที่ตอบโจทย์แทนกันได้ดีกว่า ณ ตอนนั้น


ซึ่งพอผ่านพ้นไป มันจะไม่ใช่

แค่ธุรกิจชั่วคราวในวันนี้


เพราะหลายเจ้า หลายแบรนด์

ถึงกับมีคำตอบให้ตัวเองชัดเจนด้วยซ้ำ

ว่าหลังช่วงนี้ไป เค้าได้ธุรกิจเพิ่มมาอีก


เพราะครั้งนี้ได้สอนให้เค้าเห็นแล้วว่า

“อย่าได้ใส่ไข่ทั้งเล้า ไว้ในตะกร้าใบเดียว”


ทั้งหมดนี้คือผลที่สามารถ

เกิดขึ้นได้จากการจับทาง

และปรับตัวต่อสิ่งที่เปลี่ยนไปได้


ซึ่งผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีนะครับ


เพราะในความเป็นจริงแล้ว

สำหรับคนทำธุรกิจนั้น


จะต้องหูตาไว ติดตามความเคลื่อนไหว

ของโลกยุคใหม่ที่หมุนไวขึ้นทุกวันอยู่แล้ว


ดังนั้นผมจึงมองว่า 

ทุกวิกฤติการณ์นั้น

สอนบางอย่างเราได้เสมอ


รวมถึงครั้งนี้ก็ด้วยครับ