3 บาทบาทที่แม่ทีมควรทำ ให้เข้าไปนั่งในใจลูกทีม


Blog Detail

 
คำว่า “ผู้นำ”
 
ถ้าฟังเผิน ๆ ก็เหมือนมี
ความหมายชัดเจนในตัว
ว่าต้องเป็นคนที่อยู่ข้างหน้าสุด
 
แต่ในชีวิตจริงมันมีรายละเอียด
ที่มากว่านั้นเยอะครับ
 
เพราะคุณจะไม่ได้ทำหน้าที่แค่ ‘นำ’
ให้ทุกคนเดิมตามอย่างเดียว
 
แต่ในหลาย ๆ ครั้ง
คุณก็ต้องไปนั่งข้าง ๆ เค้าด้วย  
 
ทั้งการเข้าไปประกบเป็นพี่เลี้ยง
ให้คำปรึกษาแนะนำ ทำความเข้าใจกัน
 
ซึ่งบางครั้งอาจไม่ใช่แค่สอนงาน
แต่ยังสอนวิธีคิด การบริหารชีวิต บริหารเงิน
บางครั้งอาจเป็นศิราณีในเรื่องส่วนตัวด้วยซ้ำ
 
ผู้นำจึงไม่ใช่แค่คนที่อยู่บนหอคอยงาช้าง
แต่อยู่ในทุกองศาเส้นรุ้งเส้นแวงของทีม
 
ไม่ใช่แค่เพื่อบริหารจัดการทีม
ให้ไปข้างหน้าได้
 
แต่ยังต้องเข้าไปนั่งในใจ
ของพวกเค้าให้ได้อีกด้วย
 
บทบาทที่คุณต้องมีจึงไม่ใช่แค่
การเป็นหัวลากรถไฟ
 
แต่ยังต้องสวมบทบาทสำคัญ
เหล่านี้ให้ได้ด้วยครับ
 
 
1. นักฟัง (Active Listening)
 
คุณรู้อะไรไหมครับว่า
ทักษะการเป็นนักฟังที่ดี
แบบ “Active Listening”
 
คือกุญแจไขหัวใจคนเลยครับ
 
เพราะนอกจากเหตุผลที่ว่า
ใคร ๆ ก็ชอบผู้ฟังที่ดีแล้ว
 
คุณยังจะได้เข้าใจ รู้จักตัวตน
คนของคุณอย่างลึกซึ้งอีกด้วย
 
การฟังแบบ Active Listening
คือ การฟังอย่างมีโฟกัส
 
เพื่อค้นลึกลงไปเรื่อย ๆ
ให้สามารถเข้าถึงได้จริง ๆ
 
ซึ่งเป็นคนละอย่างกับการฟัง
เพื่อรอจะโต้กลับเพียงอย่างเดียว
 
ดังนั้นถ้าอยากรู้ลึกถึงสิ่งที่
ลูกทีมยังขาด ติดปัญหา
รอรับการเติมให้เต็มจากคุณ
 
ก็จงฝึกสวมวิญญาณ
และรับบทบาทของนักฟังที่ดีครับ
 
แล้วคุณจะสามารถเข้าใจ
ทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง
 
นำไปสู่การให้ หรือการแก้ไขเค้าได้ถูกจุด
โดยที่เค้าเต็มใจจะรับฟังคุณด้วยครับ
 
 
2. “นักฝึกสอน” (Coaching)
 
ด้วยทักษะการฟังที่ดี
จะทำให้คุณเกิดทักษะ
ในการจับทางที่ดีด้วย
 
คนที่เป็นนักฝึกสอน
ต้องรู้จักจับทางให้ได้ว่า
 
อะไรที่สามารถเป็น “จุดเปลี่ยน”
ของคน ๆ นั้นได้ ?
 
อะไรคือสิ่งที่สามารถ
จี้ใจเค้าให้เกิดการลงมือทำ
เพื่อความเปลี่ยนแปลง ?
 
ซึ่งบางทีแต่ละคนอาจ
มีไม่เหมือนกันก็ได้นะครับ
 
เช่น ...
 
บางคนอาจมีแรงกระตุ้น
เพราะต้องการพิสูจน์
ความสามารถตัวเอง
 
บางคนอาจตื่นตัว
เมื่อมีใครสักคนทำให้เห็น
และรู้สึกว่าตัวเองก็ทำได้
 
บางคนอาจมีแรงฮึด
เมื่อมีเข้าสู่ภาวะหลังชนฝา
ถอยไม่ได้อีกแล้ว
 
ลงมือ Coaching ขุดลงไปลึก ๆ
ให้เจอว่าสำหรับเค้าแล้ว มันคืออะไร
 
จากนั้นใช้สิ่ง ๆ นั้น
เป็นแรงผลักดันให้กับเค้า
 
แค่คุณเข้าใจในจุดนี้ได้
จะเกิดพลังในการขับเคลื่อนชีวิต
ของลูกทีมคุณได้มหาศาลครับ
 
 
3. “นักสื่อสาร” (Communicator)
 
ผมจะพูดเสมอเลยนะครับ
ว่าผู้นำอาจไม่ถนัดอะไรบางอย่างได้
 
แต่สิ่งที่ยังไงต้องฝึกให้เก่งให้ได้
ก็คือการเป็น “นักสื่อสาร” ครับ
 
โดยเฉพาะในเรื่องของการพูด
ที่ต้องลงสนามผ่านการฝึกฝนบ่อย ๆ
 
เริ่มด้วยการพูดให้ฟังรู้เรื่อง
เรียบเรียงเนื้อหามาอย่างดี
มีความมั่นใจในน้ำเสียง
และการถ่ายทอดอารมณ์
 
ส่ง Power ออกมาได้มากพอ
จนสามารถที่จะขายไอเดีย
โน้มน้าวใจให้ลูกทีม ‘ซื้อ’ ได้
 
แล้วยิ่งประกอบเข้าด้วยกันกับบทบาท
การเป็น “นักฟัง” ในข้อที่ 1 ด้วยแล้ว
 
ผมรับรองเลยว่ามันจะพาคุณ
เข้าไปนั่งในใจลูกทีม
ได้อย่างแน่นอนครับ
 
.......................................
 
คุณเห็นด้วยกับผมไหมครับ
ว่าบทบาทเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ
เรื่องที่ละเอียดอ่อนของคน
 
ที่หากว่าคุณมองข้าม
ก็สามารถส่งผลไปถึง
ศักยภาพและผลลัพธ์ที่ควรจะได้
 
เพราะเมื่อไหร่ที่ลูกทีมของคุณ
เกิดติดขัดปัญหาใด ๆ ในชีวิต
 
ไม่ว่าจะปัญหาในเรื่องการขาย
ความติดขัดในทักษะเฉพาะ
หรือไม่เว้นแม้แต่เรื่องส่วนตัว
 
ทุกเรื่องนั้นล้วนกระทบต่อ
การทำงานได้ทั้งสิ้น
 
ดังนั้นบทบาททั้ง 3 นี้จึงมีความสำคัญ
ที่ผู้นำที่ได้ชื่อว่า “ผู้นำ” จริง ๆ
จะต้องให้ความใส่ใจครับ